วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เที่ยวสิงคโปร์แบบฉบับมือใหม่ที่ง่ายกว่าเที่ยวกรุงเทพฯ EP.1 "เตรียมตัวก่อนออกไปใช้ชีวิต"

 


เที่ยวประเทศสิงคโปร์แบบฉบับมือใหม่

ในการเริ่มต้นท่องเที่ยวต่างประเทศแต่ยังไม่รู้ว่าจะไปประเทศไหนดี วันนี้เรามีหนึ่งประเทศมาแนะนำสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยออกต่างแดน นั้นคือประเทศสิงคโปร์



 
ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากท่องเที่ยวต่างแดน เพราะเป็นประเทศที่อยู่ห่างจากประเทศไทยเพียงนั่งเครื่อง 2 ชั่วโมง เรียกได้ว่าใกล้พอๆกับเดินทางไปเชียงใหม่กันเลยที่เดียว นอกจากนั้นในการศึกษาคู่มือสำหรับท่องเที่ยและการใช้ชีวิตในประเทศสิงคโปร์ก็ไม่ได้ยาก จึงเหมาะมากสำหรับมือใหม่ที่สนใจจะออกไปพบกับอะไรใหม่ๆ



การเตรียมตัวก่อนไปไปสิงคโปร์

สำหรับคนที่คิดจะไปประเทศสิงคโปร์หรือมีแผนที่จะท่องเที่ยวสิงคโปร์ จำเป็นจะต้องเตรียมความพร้อมนิดหน่อยก่อนไป เพราะถึงจะพูดว่าเป็นประเทศที่เที่ยวได้ไม่ยากแต่ก็ยังเป็นสถานที่ ที่ต่างจากประเทศไทย แต่ แต่ แต่ แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้ยากเกินไปกว่าเที่ยวในกรุงเทพฯเลย ในการเริ่มต้นจะศึกษาจำเป็นจะต้องรู้สิ่งที่จำเป็นต่อการเดินทางอยู่บ้าง ซึ่งเราจะสรุปคำถามและสิ่งที่จำเป็นต้องรู้มาให้อยู่ใน " Blog ท่องเที่ยวสิงคโปร์แบบฉบับมือใหม่ " 

อย่างแรกที่จำเป็นจะต้องรู้ก่อนตัดสินใจไปประเทศสิงคโปร์คือค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง พอพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในประเทศสิงคโปร์หลายคนอาจรู้มาว่าประเทศสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าครองชีพที่สูงเป็นอันดับต้นๆ และอาจจะรู้สึกตัดใจไม่เดินทางเพราะกลัวกับงบประมาณที่อาจจะสูง แต่ไม่ใช่เลย ! เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่ได้สูงไปกว่าการเดินทางในประเทศเท่าไร ซึ่งจะเริ่มต้นอยู่ที่ 10000 บาทไทย ต่อการท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน ซึ้งเราสามารถจัดการให้ค่าใช้จ่ายถูกลงได้แค่เราวางแผนให้ดี ( ในเนื้อหาจะมีคำแนะนำสำหรับการจัดการวางแผนสำหรับ งบประมาณต่างๆ ) และถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปเริ่มต้นสิ่งที่จำเป็นจะต้องรู้สำหรับการเดินทางไปเที่ยวกันได้เลย 





1. เตรียมความพร้อมก่อนไปประเทศสิงคโปร์

ในหัวข้อการเตรียมความพร้อมเราจะพูดถึงตั้งแต่การเริ่มตัดสินใจไปสิงคโปร์ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไป การซื้อตั๋วและจองที่พัก ไปจนถึงเดินทางประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถ้าใครได้อ่านจนจบก็จะสามารถเตรียมความพร้อมทุกอย่างได้ในแบบฉบับมืออาชีพได้เลย

เที่ยวประเทศสิงคโปร์ต้องขอวีซ่าไหม ?


สำหรับนักท่องเที่ยวที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศไทย (Thai Passport ) สามารถเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์เพื่อการท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าในระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน โดยที่หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันที่เดินทางเข้าประเทศ 

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปสิงคโปร์

อัตราการแลกเปลี่ยนเงิน
อัตราการแลกเปลี่ยนเงินอยู่ที่ประมาณ 25 บาท ต่อ 1 ดอลล่าร์สิงคโปร์ 
เราสามารถแลกเปลี่ยนเงินได้ทั้งในประเทศไทยและในประเทศสิงคโปร์ แต่แนะนำให้แลกเปลี่ยนไปจากไทยเลยจะถูกที่สุดและตอนนี้ในประเทศไทยก็มีหลายบริษัทที่เปิดให้แลกเงินทั้ง ธนาคารและบริษัทต่างๆ เราแนะนำให้แลกที่ SuperRich เขียวและส้มเพราะจะได้เรทเงินที่ดี ( แต่ปัจุบันหลายบริษัทก็เรทดีกันทั้งนั้น ) ถ้าใครที่ไม่อยากออกไปตระเวนหาก็สามารถไปแลกได้ที่สนามบิน แต่ควรจะคำนวนจำนวนเงินที่จะแลกและเรทเงินมาก่อน สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ในเว็บ SuperRich


สภาพอากาศ
สภาพอากาศที่ประเทศสิงคโปร์จะไม่ต่างจากภาคใต้ของประเทศไทยมากหนัก อาจมีฝนตได้ตลอดทั้งปีต้องวัดดวงกันหน่อยสำหรับเรื่องนี้ เพราะฉนั้นให้เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบายและเสื้อกันฝนไปด้วยจะดีมาก

เวลา
เวลาที่ประเทศสิงคโปร์จะเร็วกว่าประเทศไทยอยู่ 1 ชั่วโมงถ้าไปจากประเทศไทยก็ไม่ต้องปรับตัวเลย สามารถใช้เวลาชีวิตได้ตามปกติ 

ภาษา
อีกเรื่องหนึ่งที่ควรรู้คือภาษาที่ประเทศสิงคโปร์ หลักๆก็จะเปลี่ยนภาษาอังกฤษแต่สำเนียงของภาษาจะแตกต่างกันไปแล้วแต่เมือง เพราะประเทศสิงคโปร์มีประชากรหลากหลายสัญชาติ เช่นจีน อินเดีย แต่ก็ไม่ได้ฟังยากเพราะใช้ภาษาอังกฤษกันเป็นภาษาหลัก สำหรับคนที่มีความสามารถทางด้านภาษาที่ไม่เก่งมากนักก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจ เพราะคนที่นั้นใช้ความสามารถรู้เขารู้เรา

การเดินทาง
การเดินทางในประเทศสิงคโปร์ก็ง่ายพอๆกับการสั่งอาหารตามสั่งในประเทศไทยเสียอีก มีให้เลือกทั้ง MRT BUS และ Taxi 

MRT ในประเทศสิงคโปร์เป็นอะไรที่เข้าใจง่าย เพียงแค่เรารู้ว่าเราจะเดินทางไปไหนและสถานีที่จะลงเราก็สามารถเดินทางไปได้เกือบทั่วประเทศเลย ไลน์การเดินรถไฟก็เข้าใจง่าย 
  ***หลักการเดินทางโดย MRT คือ จำเป็นจะต้องรู้สถานีที่เราจะขึ้นแล้วสถานีปลายทาง หลังจากนั้นเราก็ดูจำนวนสถานีที่ต้องผ่านและสถานีที่ต้องเปลี่ยน หลักการเดียวกันกับการขึ้น BTS ในประเทศไทย ซึ่งเราสามารถเช็คทั้งหมดได้ใน App "SC MRT" และในนั้นยังบอกถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกด้วย



Bus ในประเทศสิงคโปร์ก็ใช้งานง่ายกว่าประเทศไทย เราสามารถเข้าไปดูได้ที่ google map ได้เลยเพียงเลือกที่ๆเราอยู๋และที่ๆจะไปแล้วเลือกไปที่ขนส่งสาธารณะ ก็จะบอกสายรถที่เราจะต้องขึ้น และในนั้นยังบอกว่ารถที่เราจะขึ้นถึงป้ายไหนแล้ว 

Taxi ในประเทศสิงคโปร์ก็จะคลายๆกับประเทศไทยคือโบก แล้วบอกที่จะไปก็สามารถเดินทางได้แล้ว แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าค่าเดินทางแพงกว่าประเทศไทยอยู่มากพอสมควรและยิ่งในช่วงเวลากลางคืนก็จะแพงกว่าตอนกลางวันเข้าไปอีก แนะนำให้ใช้ Grab ในการเรียกใช้จะง่ายกว่าเพราะไม่ต้องบอกสถาที่ ที่จะไปและยังสามารถรู้ราคาได้เลย

Ticket อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นจะต้องรู้คือการจ่ายค่าบริการเราสามารถซื้อตั๋วเป็นต่อเที่ยวหรือซื้อบัตรสำหรับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแบบใน Blog นี้เราจะแนะนำเพียงแค่ 2 แบบ ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว 




Singapore Tourist Pass บัตรนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ท่องเที่ยวโดยใช้ MRTและBusเป็นหลัก สามารถใช้ชำระค่าโดยสารได้ทั้งMRTและBus แต่พิเศษของบัตรนี้คือเป็นบัตรแบบเหมาจ่าย คือเราจ่ายทีเดียวตอนซื้อบัตรหลังจากนั้นเราสามารถใช้ขึ้นขนส่งสาธารณะได้ทุกสาย กี่รอบก็ได้ ตามระยะเวลาที่เราจากเหมามา 1 วัน , 2 วัน , 3 วัน ราคาบัตรจะอยู่ที่  S$10, S$16 และ S$20 ตามลำดับ จริงๆบัตรประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่เก่งในการเดินทางหรือชอบเดินทางผิดอยู่บ่อยๆ ก็จัดเป็นบัตรSingapore Tourist Passนี้ได้เลย


EZ-Link บัตรนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีการวางแผนมาก่อนที่จะไปเที่ยว เพราะเป็นบัตรที่จะทำให้เราไม่ต้องพกเงินสดเพียงแค่เราเติมเงินเข้ามาเก็บไว้ในบัตรก็สามารถขึ้น MRTและBus ค่าบริการจะเป็นไปตามจริงที่เราเดินทาง แต่ตัวบัตรจะมีความพิเศษอยู่ที่เราจะได้ค่าโดยสารที่ถูกกว่าบัตรแบบต่อเที่ยว และตัวบัตรยังสามารถนำไปใช้จ่ายสิ้นค้าในร้านสะดวกซื้อได้อีกด้วย เรียกว่าคุ้มค่าและสะดวกสบายจริงๆสำหรับบัตร EZ-Link โดยการเดินทางของMoonเองก็จะเลือกใช้แต่บัตรนี้ 





การซื้อบัตร EZ-Link ครั้งแรกจะอยู่ที่ S$12 โดยที่จะแบ่งเป็นเงินค่าบัตร S$5 และ S$7 สำหรับเงินในบัตร แต่แนะนำให้เติมเพิ่มเข้าไปอีก S$10 ก็จะเพียงพอต่อการใช้งาน 4 วันแบบสบายๆ และถ้าใครใช้ไม่หมดก็สามารถมาแลกเอาเงินคืนได้ที่สถานีทุกแห่ง แต่ถ้าไม่อยากขอเงินคืนก็สามารถเก็บไว้ใช้ได้อีก บัตรจะมีอายุอยู่ที่ 5 ปี

กรณีต้องการเติมเงินในบัตร สามารถเติมได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอันโนมัติ GTM, ตู้สำหรับการเติมเงินที่เขียนว่า Top-up หรือเติมผ่านเจ้าหน้าที่ประจำสถานีก็ได้ โดยขั้นต่ำอยู่ที่ S$10 

ไฟฟ้า 

    ประเทศสิงคโปร์ใช้ระบบไฟฟ้า 220 โวลต์เหมือนกับประเทศไทย ดั้งนั้นสามารุใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่นำไปจากประเทศไทยได้ทุกอย่าง แต่ที่นั้นจะใช้หัวปลั๊กแบบหัวแบนดังนั้นเตรียม Universal Adaptor ไปด้วยเลยก็ได้หรือสามารถไปหาซื้อตามร้านสะดวกซื้อที่นั้นได้


น้ำดื่ม

นำ้ดื่มที่ประเทศสิงคโปร์มีราคาสูง ประมาณ S$1 แต่เราสามารถน้ำขวดเปล่ามาเติมดื่มตามก๊อกได้เลยเพราะสิงคโปร์มีมาตรฐานการทำน้ำดื่มอยู่แล้ว จึงแนะนำให้ใช้วิธีซื้อน้ำดื่มขวดแรก และในครั้งต่อๆไปให้เติมที่ก๊อกน้ำได้เลย จะมีจุดให้เติมที่โรงแรมและตามสถาที่ต่างๆ

Internet

ที่สิงคโปร์มี WIFI ฟรีให้ใช้ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ที่สถานที่ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ และสถาที่ท่องเที่ยว แต่ถ้าใครไม่อยากตามหา WIFI ฟรี ก็สามารถซื้อซิมเพื่อใช้งานได้เลย ราคาจะอยู่ที่ S$15 - 30 หาซื้อได้ที่สนามบินหรือร้านค้าสะดวกซื้ออย่างเช่น 7-Eleven แต่ปัจุบันซิมที่ขายในสนามบินจะเริ่มต้นอยู่ที่ S$30 ดังนั้นขอแนะนำให้ออกมาซื้อที่ 7-Eleven เพราะจะได้ราคาที่ถูกกว่า (โปรโมชั่นส่วนใหญ่จะเป็น 4G /100 GB / 7-15 Day และ มีค่าโทรให้ แค่นี้ก็เพียงพอต่อการเที่ยวแล้ว)

ช่วงเวลาที่เดินทาง

การเลือกเวลาเดินทางที่เหมาะสมก็เป็นตัวช่วยให้การเดินทางสนุกยิ่งขึ้น เพราะสิงคโปร์ในแต่ละเทศกาลจะมีความแตกต่างกันออกไป ถ้าเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการก็จะทำให้เราเที่ยวได้อย่างสนุก เราจะยกตัวอย่างเทศกาลบางส่วนมาให้อ่าน
     เทศกาลวันตรุษจีน ที่ประเทศสิงคโปร์มีคนเชื้อสายจีนอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นถ้าไปท่องเที่ยวช่วงนี้ที่ย่านไซน่าทาวน์ก็จะมีความคึกคักมาก
    เทศกาลปีใหม่ ในช่วงนี้ที่สิงคโปร์ก็จะมีการจัดงานแสงสีเสียงให้ชมตามตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ดังเหมาะมากสำหรับการไปนับถอยหลัง Coundown 
   เทศกาลลดราคา The Great Singapore Sale ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนกรกฏาคมเป็นช่วงที่สิงคโปร์จะนำสินค้ามาลดราคา สูงสุด 50% - 70% ใครที่สนใจจะไปเลือกซื้อสินค้าที่ถนนออร์ชาร์ด ก็แนะนำให้ไปช่วงนี้เลย
   เทศกาลอาหารสิงคโปร์ Singapore Food Festival จะจัดขึ้นช่วงเดือนกรกฏาคม ซึ้งจะจัดคู่กับเทศกาลลดราคา โดยที่ร้านอาหารต่างๆทั่วเกาะจะนำอาหารออกมาให้ชิม 
   เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ เป็นช่วงที่คนเชื้อสายจียจะออกมาเฉลิมฉลองกัน ทำให้ตามท้องถนนจะถูกตกแต่งไปด้วยโคมไฟอย่างสวยงาม

หลังจากที่รู้ช่วงเวลาที่ต่างๆและเลือกเวลาได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะมาดูตั๋วเครื่องบินกับที่พักกันต่อได้เลย

 

ตั๋วเครื่องบินและที่พัก

ในการเดินทางไปสิงคโปร์เราต้องนั่งเครื่องบินไปประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งมีสายการบินให้เราเลือกทั้งสายการบินสัญชาติไทยและสายการบินนอกก็มีเที่ยวบินตรงจากประเทศไทยสู่สิงคโปร์ ส่งผลให้มีราคาตั๋วเครื่องบินที่หลากหลายราคาเริ่มต้น ไป-กลับ อยู่ที่ 1,500 บาท ( จะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและโปรโมชั่นของสายการบินนั้นๆ ) แต่โดยเรทราคาปกติ (Low-Cost Airline)ที่จะหาซื้อแบบที่เราสามารถกำหนดช่วงเวลาได้จะอยู่ที่ 2500 - 3500 บาท ซึ้งถือว่าเป็นราคาที่ใครหลายๆคนสามารถจับต้องได้ และ สายการบิน Full Service ราคาจะอยู่ช่วง 10,000 บาท โดยช่องทางการซื้อก็มีให้เราเลือกใช้หลากหลายวิธี ในที่นี้จะแนะนำ website หรือ application ในการเลือกซื้อคือ Traveloka และ Skyscanner ทั้งสองแพลตฟอร์มเป็นตัวช่วยในการหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก ที่ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก และนอกจากนั้นทั้งสองแพลตฟอร์มยังสามารถหาที่พักราคาถูกได้อีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวกสบาย ครบจบในที่เดียวเลย

แต่ในการหาที่พักเราขอแนะนำอีก 1 แพลตฟอร์ม คือ Agoda ที่ทำหน้าที่คลายกับแพลตฟอร์มอื่นๆแต่ Agoda มีตัวเลือกในการชำระเงินหลากหลายวิธีให้เราได้เลือกใช้งาน ซึ้งที่พักจะถูกแบ่งเป็น 2 แบบที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าพักกันคือ Hostel ที่เหมาะกับสาย Backpacker ที่เน้นเรื่องความประหยัดแต่ก็ยังครบไปด้วยความสะดวกสบายราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 500 บาทไทย และ Hotel ที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่เน้นความ Privacy ที่พักแบบนี้จะมีห้องหลายแบบให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาทให้ตัดสินใจ 

ในที่นี้สำหรับคนที่พึ่งเริ่มต้นที่ต้องการจะท่องเที่ยวเราขอแนะนำให้เลือก Hotel เพราะจะได้รับความสะดวกสบายมากกว่า และเราได้จัดอันดับที่พักราคาถูกไว้ให้เป็นตัวเลือกเพื่อช่วยตัดสินใจ " Blog ที่พักสิงคโปร์สำหรับมือใหม่ "

2.วันเดินทาง

สำหรับคนที่มีประสบการณ์การเดินทางไปต่างประเทศให้ผ่านหัวข้อนี้ไปได้เลย แต่สำหรับคนที่เดินทางเป็นครั้งแรก ถ้าอ่านหัวข้อนี้แล้วก็จะช่วยให้การเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ใรครั้งนี้ง่ายขึ้น ซึ่งในหัวข้อนี้เราจะเริ่มกันตั้งแต่แนะนำการจัดของที่จำเป็น,การพาไปขึ้นเครื่องและการผ่านเข้าประเทศสิงคโปร์

การเตรียมกระเป๋าก่อนการเดินทาง

การเตรียมของก่อนออกเดินทางไปต่างประเทศไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่ใครหลายๆคนคิด แค่คุณจัดสิ่งของที่จำเป็นในการใช้ในกิจวัตร เหมือนๆกับเที่ยวในประเทศ แต่อาจจะมีขอเพิ่มเติมมานิดหน่อย ดังนั้นเราจึงทำ Checklist  ไว้เป็นตัวช่วยในการจัดและกันลืมในวันที่เดินทาง


สามารถโหลดได้ที่ Checklist

***ก่อนจะออกเดินทาง ควรสแกนเอกสารต่างๆที่จำเป็นเช่นหนังสือเดินทาง, ตั๋วเครื่องบิน, ใบจองโรงแรม, แผนการเดินทางแล้วโหลดใส่มือถือหรือส่งเข้าอีเมล์ไว้ กันเอกสารเหล่านี้หาย 



Next EP.2 "เที่ยวให้สุดแล้วหยุดใจไว้ที่สิงคโปร์"

ออกไปใช้ชีวิตให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย
TheLastMemory by Monster moon

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น